“กรินช์​บอต” ตัวป่วนคริสต์มาสยุคดิจิทัล

ปลายปีเป็นช่วงเวลาแห่งเทศกาลอันรื่นรมย์ที่นำพาของขวัญ ความสุข การเฉลิมฉลอง มาสู่ทุกคน และเป็นช่วงเวลาที่สมาชิกครอบครัวได้มาอยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา โดยที่สัญลักษณ์ของคริสต์มาสที่เราต่างก็รู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี ก็เช่น ซานตาคลอส กวางเรนเดียร์ หิมะ สโนว์แมน กล่องของขวัญ เป็นต้น

ทว่าท่ามกลางเสียงหัวเราะและบทสนทนาอันอบอุ่นนั้น ก็มีตัวละครอีกตัวหนึ่งที่ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของคริสต์มาสไปด้วยแบบงงๆ

ทั้งๆ ที่ตัวละครตัวนี้โดยเนื้อแท้แล้วเกลียดคริสต์มาสและการฉลองคริสต์มาสในทุกรูปแบบ ตัวละครตัวนี้มีขนฟูฟ่องรอบตัว สีเขียวอื๋อ และเรามักจะเห็นเขา (หรือต้องเรียกว่ามันก็ไม่รู้) ปลอมตัวเป็นซานตาคลอสด้วยชุดยูนิฟอร์มขาวแดงอันคุ้นตา

ใช่แล้วค่ะตัวละครผู้เกลียดคริสต์มาสที่เป็นสัญลักษณ์ของคริสต์มาสไปแล้วก็คือ “เดอะ กรินช์” ตัวละครจากนิยายของ ดร.ซูส และถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เรื่อง How The Grinch Stole Christmas หรือชื่อไทยว่า “เดอะกรินช์​ ตัวเขียนป่วนเมือง” นั่นเอง

ไม่ว่าในภาพยนตร์เดอะกรินช์จะป่วนคริสต์มาสด้วยวิธีไหนบ้าง แต่ยุคนี้แล้ว เดอะกรินช์ก็ต้องปรับเปลี่ยนไปตามกาลเวลาและความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี วันนี้ซู่ชิงจะมาชวนทำความรู้จัก “กรินช์บ็อต” ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งให้กับโปรแกรม ซึ่งคนเขียนโปรแกรมเนี่ยร้ายแสนร้าย เขียนขึ้นมาเพื่อทำลายความหวังและความฝันของเด็กๆ ในช่วงเทศกาลคริสต์มาสแท้ๆ ดังนั้นจะให้ชื่อว่าเป็นกรินช์บ็อต ตัวทำลายคริสต์มาส ก็คงไม่แปลกอะไร

กรินช์บ็อตได้ชื่อนี้มาเพราะว่าหน้าที่ของซอฟต์แวร์ตัวนี้คือการไล่หาโปรโมชันสินค้าราคาพิเศษบนเว็บไซต์ขายของออนไลน์ทั้งหลาย โดยจะพุ่งเป้าไปที่ของเล่นสำหรับเด็กเนื่องจากในช่วงเทศกาลแบบนี้ของเล่นหลากหลายประเภทเป็นสิ่งที่ฮอตฮิตอินดีมานด์ที่สุด เมื่อพบว่าเว็บไซต์ไหนมีของเล่นเจ๋งๆ ราคาพิเศษ เป็นที่ต้องการจากคนหมู่มาก ก็จะเข้าไปกวาดซื้อมาจนเกลี้ยง และไม่ได้กวาดเอามาแจกจ่ายให้เด็กๆ เหมือนกับที่ซานตาคลอสทำนะคะ แต่เอาไปขายโก่งกำไรต่อบนเว็บไซต์อย่างอีเบย์หรืออเมซอนต่างหาก

กรินช์บ็อตจะคอยไล่ตรวจสอบเว็บไซต์ขายของต่างๆ เพื่อตามหาของเล่นยอดนิยมราคาพิเศษ ซึ่งการตระเวณตรวจสอบแบบนี้สามารถทำได้ในสปีดที่เร็วชนิดที่มนุษย์มิอาจจะเทียบเคียงได้เลย แถมยังสามารถสั่งซื้อได้หลายๆ ออเดอร์พร้อมๆ กันด้วย บางทีบ็อตก็จะไปฝังตัวอยู่ตามโซเชียลมีเดียอย่างทวิตเตอร์เพื่อคอยหาข้อมูลว่าร้านค้าออนไลน์ไหนประกาศสินค้าลดราคาบ้าง หรือหากเว็บไหนประกาศเวลาเตรียมพร้อมจะเอาสินค้าขึ้นเว็บ บ็อตพวกนี้ก็จะรู้ล่วงหน้าก่อนมนุษย์และพร้อมวางออเดอร์ได้เร็วสายฟ้าแลบ

ทำกันแบบนี้ผลลัพธ์ที่ตามมาก็คือของเล่นยอดฮิตทั้งหลายขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาอันรวดเร็ว และเมื่อถูกนำไปขายต่อบนเว็บไซต์อื่น ราคาของมันก็จะถูกโก่งขึ้นไปหลายเท่าตัวจนแทบไม่น่าเชื่อว่าราคาดั้งเดิมของมันจะแตกต่างกันได้ถึงเพียงนั้น ตัวอย่างสินค้าที่ถูกกรินช์ฉกไปและนำไปบวกราคาอย่างบ้าคลั่ง ก็อย่างเช่น “ฟิงเกอร์ลิงส์” ตุ๊กตาลิงตัวเล็กๆ ที่ห้อยโหนลงมาจากนิ้วของเด็กๆ ได้ ซึ่งฟิงเกอร์ลิงส์ราคาขายจะอยู่ที่ 15 ดอลลาร์ หรือประมาณห้าร้อยบาทเท่านั้น แต่ราคาขายต่อนั้นสูงถึงเกือบสี่หมื่นบาทเลยทีเดียว (โอ้โห)

ไม่ใช่แค่ฟิงเกอร์ลิงส์เท่านั้นที่ประสบชะตากรรมแบบนี้ แต่ของเล่นน่าเล่นอื่นๆ อย่างเช่นตุ๊กตา L.O.L. Surprise! ซึ่งเป็นลูกบอลห่อกระดาษสีสันสดใส เด็กๆ จะต้องแกะห่อออกทั้งหมดเจ็ดชั้นและจะพบกับของเล่นชิ้นเล็กๆ ทั้งแอคเซสซอรี่ สติกเกอร์ เสื้อผ้าตุ๊กตา และมีตุ๊กตาอยู่ในชั้นสุดท้าย (ซึ่งซู่ชิงดูคลิปวิดีโอแล้วน่ารักน่าเล่นมากๆ) หรือคอนโซลเกม NES Classic Edition ที่นินเท็นโดออกมาวางขายในจำนวนจำกัด ทั้งหมดนี้ราคาขายตอนแรกไม่ได้แพงอะไรเลย อย่างตุ๊กตา L.O.L Surprise ก็แค่ตัวละสิบดอลลาร์ ในขณะที่คอนโซลเกมนินเท็นโดแค่แปดสิบดอลลาร์เท่านั้น แต่ราคาขายต่อกลับพุ่งไปเป็นหมื่นดอลลาร์อย่างไม่น่าเชื่อ

 

เมื่อปัญหามันโกโซบิ๊กขนาดนี้ก็เลยต้องมีหัวหอกที่ออกมานำขบวนเรียกร้องให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องลงมือทำอะไรบางอย่าง มิเช่นนั้นก็จะเหมือนปล่อยให้เดอะกรินช์ขโมยคริสต์มาสไปจากเด็กๆ ที่เฝ้ารอของขวัญอย่างใจจดใจจ่อมาตลอดทั้งปี หนึ่งในคนที่ออกมาแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้อย่างเผ็ดร้อนคือ วุฒิสมาชิกนิวยอร์ก ชัค ชูเมอร์ ที่บอกว่านี่มันคือการขโมยเงินออกจากกระเป๋าสตางค์ชัดๆ ชนชั้นกลางต่างก็พยายามกระเบียดกระเสียรเก็บหอมรอมริบเงินมาตลอดทั้งปีเพื่อจะได้ซื้อของเล่นดีๆ ให้ลูกตัวเองในช่วงปลายปี แต่ต้องมาเจอกับคนที่ใช้เทคโนโลยีตุกติกแบบนี้ ดังนั้นจึงมีการเรียกร้องให้เว็บไซต์ขายปลีกออนไลน์ทั้งหลายลงมือทำอะไรบางอย่าง บล็อคบ็อตตัวป่วนคริสต์มาสเหล่านี้ไปให้หมดสิ้น และนำคริสต์มาสกลับคืนมาสู่ประชาชนทุกคน!

จะว่าไปนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีการใช้โปรแกรมแบบนี้มาเป็นเครื่องมือในการค้ากำไรเกินควร เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยมีการทำแบบเดียวกันนี้กับตั๋วละครบรอดเวย์หรือคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ที่คนจำนวนมากอยากดูมาแล้ว แต่ตอนนี้บรรดาคนที่อยู่เบื้องหลังโปรแกรมหล่านี้กลับมุ่งเป้าไปที่ของเล่นแทน ซึ่งการแพร่ระบาดของบ็อตพวกนี้นี่แหละที่เป็นหนึ่งในสาเหตุทำให้เวลาเราเปิดเว็บไซต์หลายๆ เว็บ เรามักจะได้เห็นระบบที่เรียกว่า CAPTCHA ที่จะให้เราพิมพ์ตัวอักษรตามภาพที่เห็น ซึ่งอาจจะเป็นตัวอักษรบิดๆ เบี้ยวๆ มีแบ็กกราวด์หลากสีอันนี้เขาใช้เพื่อจะได้แยกคนออกจากโปรแกรมได้นั่นเองค่ะ หลังๆ ก็พัฒนาไปเป็นภาพที่จะให้เราคลิกตามโจทย์ที่ให้มา อย่างเช่น คลิกว่าในภาพที่แบ่งออกเป็นช่องๆ ช่องไหนมีรถยนต์อยู่ในภาพบ้าง หรือภาพ GIF ไปจนถึงฟังเสียงแล้วพิมพ์ตามก็มี แต่ข้อเสียของวิธีนี้คือจะทำให้ลูกค้ารู้สึกรำคาญใจ ฉันจะต้องมาคลิกอะไรมากมายเนี่ย ยิ่งไม่รู้ที่มาที่ไปว่าให้ทำไปเพื่ออะไรก็ยิ่งพาลจะหงุดหงิดไปได้ง่ายๆ

recaptcha-example

ในระหว่างนี้สิ่งที่เราพอจะทำได้ก็คือตรวจสอบราคาสินค้าที่เราอยากซื้อให้ดีๆ เสียก่อน ว่าราคาขายที่แท้จริงมันเท่าไหร่กันแน่ จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของกรินช์บ็อตที่ไปสอยของราคาไม่แพงมาค้ากำไรเกินควร แต่ก็มีการคาดการณ์นะคะว่าในอนาคตอันใกล้ ฝั่งลูกค้าก็จะเริ่มตอบโต้บรรดากรินช์บ็อตเหล่านี้ด้วยการเขียนบ็อตของตัวเองขึ้นมาบ้าง แล้วคราวนี้ก็จะมีแต่บ็อตสู้รบปรบมือแย่งชิงโปรโมชันสินค้าดีๆ กันเต็มอินเทอร์เน็ตไปหมด ใครไม่มีเครื่องมือพวกนี้ก็อาจจะทำอะไรไม่ได้ ได้แต่นั่งมองตาปริบๆ ต่อไป

นี่แหละค่ะ เดอะกรินช์แห่งยุคดิจิทัล ก็ต้องทำลายบรรยากาศรื่นเริงด้วยวิธีดิจิทัลๆ แบบนี้แหละ

 

Merry Christmas from Us
อันนี้ไม่ใช่เดอะกรินช์นะคะ นี่คือ ซานตุ๊ด ซานตี้ และเรนเดียร์ เมอร์รี่คริสต์มาสและสวัสดีปีใหม่ทุกๆ คนค่ะ
Advertisement

Leave a Reply

Fill in your details below or click an icon to log in:

WordPress.com Logo

You are commenting using your WordPress.com account. Log Out /  Change )

Twitter picture

You are commenting using your Twitter account. Log Out /  Change )

Facebook photo

You are commenting using your Facebook account. Log Out /  Change )

Connecting to %s