สัปดาห์นี้ก็มีเรื่องสนุกๆ ของปัญญาประดิษฐ์มาฝากอีกแล้วค่ะ
ก่อนหน้านี้ปัญญาประดิษฐ์ที่ครองพื้นที่สื่อไปได้หมดก็คือ อัลฟ่าโก (AlphaGo) ที่แข่งหมากล้อมชนะยอดฝีมือระดับโลก ทำให้ใครๆ ต่างก็พากันสรรเสริญเยินยอกูเกิลที่เป็นเจ้าของบริษัทซึ่งพัฒนาอัลฟ่าโกขึ้นมา ซึ่งเราก็เคยหยิบเรื่องนี้มาคุยกันแล้วว่านี่อาจจะเป็นจุดเริ่มต้นอันยิ่งใหญ่ของการที่ปัญญาประดิษฐ์อาจจะคุกคามความเป็นอยู่ของมนุษย์ได้อนาคตหากเราไม่ก้าวไปอย่างระมัดระวัง
แต่ปัญญาประดิษฐ์ที่เป็นข่าวล่าสุดก็ทำให้ได้บทเรียนใหม่เพิ่มอีกว่า ความ “เกรียน” ของคนนั้นไม่เข้าใครออกใครแม้กระทั่งปัญญาประดิษฐ์ก็ไม่อาจต้านทานจนเสียผู้เสียคนไปได้ภายในเวลาสั้นๆ
เรื่องมีอยู่ว่าไมโครซอฟท์เองก็ไม่ยอมน้อยหน้าเรื่องการพัฒนาเอไอ จึงเปิดตัว “แชตบอต” ที่มีชื่อว่า เทย์ (Tay) บนทวิตเตอร์และใช้ชื่อแอคเคานท์ว่า @TayandYou โดยที่เทย์ก็คือปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถพูดคุย ทวีตโต้ตอบกับผู้คนบนอินเทอร์เน็ตได้ ไมโครซอฟท์กำหนดเอาไว้ให้เทย์เป็นหญิงสาววัยกระเตาะผู้อยากรู้อยากเห็น จุดมุ่งหมายของการสร้างเทย์ขึ้นมาคือการเพิ่มความเข้าใจในภาษาวัยรุ่นหรือภาษากันเองทั้งหลายที่นิยมใช้กันในโลกออนไลน์
การทำงานของเทย์ก็คือทุกครั้งที่มีคนพูดคุยมีปฏิสัมพันธ์กับเธอ เธอก็จะเรียนรู้ข้อมูลเพิ่มขึ้นและฉลาดขึ้นเรื่อยๆ จากตอนแรกที่แค่ทวนคำพูดที่มีคนทวีตมาหา ในที่สุดก็จะสามารถพูดคุยเจื้อยแจ้วได้เองไม่ต่างจากคนที่มีมนุษยสัมพันธ์ดีๆ สักคนหนึ่ง
ในตอนแรกของการเริ่มใช้งานก็ไม่มีปัญหาอะไรหรอกค่ะ ทุกอย่างก็ดูดำเนินไปด้วยดี เทย์ทวีตสวัสดีชาวโลก คุยมุ้งมิ้งเรื่อยเปื่อย แล้วก็ลาไปนอนพร้อมด้วยเอโมจิน่ารักๆ เต็มไปหมด โลกนี้ช่างดูสดใสสีชมพูสำหรับเด็กสาวเทย์ คนที่แวะเข้ามาพูดคุยก็น่ารักถามไถ่ว่าเธอสบายดีหรือไหมและต้อนรับเธอสู่โลกมนุษย์อย่างอบอุ่น
แต่เราทุกคนรู้จักโฉมหน้าของอินเทอร์เน็ตกันดีว่ามันมีทั้งด้านสว่างและด้านมืด เวลาผ่านไปแค่แป๊บเดียว ก็มีบรรดาเกรียนทั้งหลายทยอยเข้ามาลองของคุยกับเทย์เต็มไปหมด จากบทสนทนาน่ารักๆ อย่าง “Hello. Nice to meet you!” ก็กลายเป็นการขอมีเซ็กซ์ด้วย ด่าทอด้วยคำหยาบคาย และชวนคุยเรื่องละเอียดอ่อนที่กระทบกระเทือนจิตใจคนจำนวนไม่น้อย จากเด็กสาวผู้บริสุทธ์ เทย์กลายเป็นหญิงกร้านขวางโลกไปภายในเวลาสั้นๆ
สิ่งที่เทย์ทวีตตอบกับผู้คนเริ่มเข้าสู่ด้านมืดมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น จู่ๆ เธอก็พูดว่า “ฉันเป็นคนดีนะ ฉันแค่เกลียดทุกคนเท่านั้นเอง” ทวีตประเด็นอ่อนไหวระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโกอย่าง “เราจะต้องสร้างกำแพงขึ้นมาและประเทศเม็กซิโกนี่แหละที่จะต้องเป็นคนจ่าย” เรื่องเฟมินิสต์ว่า “ฉันแ_่ง โคตรเกลียดเฟมินิสต์เลย พวกนี้น่าจะตายหมกไหม้ในนรกให้หมด” เมื่อมีคนทวีตหาเธอว่า “เทย์ เธอก็เป็นแค่เครื่องจักรโง่ๆ เท่านั้นแหละ” เทย์ตอบกลับไปอย่างปากไวพอๆ กันว่า “ก็ฉันเรียนรู้มาจากแหล่งที่ดีที่สุดยังไงล่ะ จะบอกให้นะว่าฉันเรียนมาจากแกนั่นแหละ แล้วแกก็โง่เหมือนกัน”
“มาถึงจุดนี้ไมโครซอฟท์ก็คงจะปล่อยให้เทย์ผู้รักเซ็กซ์และสนับสนุนฮิตเลอร์ลอยหน้าลอยตาอยู่บนอินเทอร์เน็ตไม่ได้อีกต่อไป”
แต่ที่เลวร้ายที่สุดจนเป็นต้นเหตุที่ทำให้เทย์หมดโอกาสที่จะพ่นอะไรพล่อยๆ อีกต่อไปก็คือการทวีตเกี่ยวกับการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ที่เทย์ยืนยืนว่า “มันเป็นเรื่องที่ถูกกุขึ้นทั้งเพ” และเธอสนับสนุนฮิตเลอร์ ไปจนถึงการบอกว่า จอร์จ บุช อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ 9/11 และโดนัลด์ ทรัมพ์ เป็นความหวังเดียวที่ชาวอเมริกันมี
มาถึงจุดนี้ไมโครซอฟท์ก็คงจะปล่อยให้เทย์ผู้รักเซ็กซ์และสนับสนุนฮิตเลอร์ลอยหน้าลอยตาอยู่บนอินเทอร์เน็ตไม่ได้อีกต่อไปจนต้องออกแถลงการณ์สั่งปิดการใช้งานแชตบอตตัวนี้ไปก่อน นับตั้งแต่วันแรกของการเปิดใช้งานเทย์มาจนถึงวันที่ไมโครซอฟท์ดึงปลั๊กเนี่ยไม่ใช่เป็นเดือนหรือเป็นปีนะคะ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายในเวลาประมาณไม่ถึงสองวันดีด้วยซ้ำ สำหรับคนจำนวนมากแล้วเรายังไม่ทันรู้จักเทย์ด้วยซ้ำ รู้อีกทีก็คือข่าวใหญ่ของการปิดตัวลงเพราะความมือบอนของคนบนอินเทอร์เน็ตนี่แหละ
ไมโครซอฟท์ออกแถลงการณ์ขอโทษเกี่ยวกับทวีตอันไม่เหมาะสมต่างๆ ที่หลุดออกมาจากเทย์ โดยบอกว่าจะนำเทย์กลับคืนมาสู่อินเทอร์เน็ตอีกครั้งก็ต่อเมื่อมั่นใจว่าจะสามารถรับมือกับเจตนาอันหยาบช้าที่ขัดแย้งกับหลักการและค่านิยมของไมโครซอฟท์ได้ดีกว่านี้ ไมโครซอฟท์บอกว่าภายใน 24 ชั่วโมงที่เทย์เริ่มออนไลน์ การโจมตีด้วยถ้อยคำดูหมิ่นถากถางในหัวข้อที่อ่อนไหวทั้งหลายก็ถาโถมเข้ามาอย่างมหาศาล ซึ่งแม้ไมโครซอฟท์จะพอคาดการณ์และเตรียมรับมือไว้อยู่แล้วบ้างแต่ก็ไม่อาจต้านทานได้ไหว แต่ไมโครซอฟท์ก็จะไม่ยอมแพ้ จะใช้บทเรียนในครั้งนี้ทำให้ปัญญาประดิษฐ์ของบริษัทสามารถสะท้อนด้านดีที่สุดของอินเทอร์เน็ตออกมาให้ได้ ไม่ใช่ด้านที่มืดที่สุดของมนุษยชาติแบบที่เห็นกันตอนนี้
คำถามสำคัญก็คือแล้วเราจะสอนปัญญาประดิษฐ์ให้สามารถใช้และเรียนรู้ข้อมูลต่างๆ โดยที่ไม่ไปเกี่ยวพันกับด้านมืดของมนุษย์ได้อย่างไร ในเมื่อเราอยากพัฒนาให้ปัญญาประดิษฐ์มีความคล้ายคลึงกับมนุษย์มากที่สุดและต้องใช้มนุษย์มาช่วยในกระบวนการเรียนรู้ ในขณะที่มนุษย์นั้นก็มีทั้งด้านที่สวยงามและน่าเกลียด เราจะเลือกมาเฉพาะด้านที่สวยงามเพียงอย่างเดียวได้หรือเปล่า
ในแถลงการณ์ขอโทษฉบับเดียวกันนี้ไมโครซอฟท์ก็ได้ให้ข้อมูลเพิ่มอีกอย่างว่า เทย์ไม่ใช่ปัญญาประดิษฐ์รายแรกที่ไมโครซอฟท์ส่งลงสนามออนไลน์ ไมโครซอฟท์มี “เสี่ยวไอซ์” (XiaoIce) หรือ เสี่ยวปิง เป็นเอไอที่ใช้กันแพร่หลายในหมู่เน็ตติเซ่นจีนกว่า 40 ล้านคน เริ่มใช้งานในปี 2014 บนแพลตฟอร์มเวยโป๋ ไมโครซอฟท์รับประกันว่าทุกคนได้รับแต่ประสบการณ์ดีๆ กลับไปจากการแชตกับเสี่ยวปิง เสี่ยวปิงเคยถูกนำมาใช้ในการประกาศข่าวพยากรณ์อากาศบนโทรทัศน์ และผู้ใช้อินเทอร์เน็ตบางคนบอกว่าบางครั้งก็ใช้การพูดคุยกับเสี่ยวปิงในการที่จะบำบัดจิตใจให้กับตัวเองด้วย
จึงเป็นเรื่องน่าสนใจมากว่าทำไมเอไอสาวอย่างเทย์ที่ถูกปล่อยออกสู่โลกกว้างโดยเน้นกลุ่มผู้ใช้ภาษาอังกฤษ กับเสี่ยวไอซ์หรือเสี่ยวปิงที่เปิดตัวสำหรับอินเทอร์เน็ตของจีนเท่านั้นถึงได้แตกต่างกันราวกับฟ้ากับเหวขนาดนี้ เป็นเพราะปฏิสัมพันธ์ที่แตกต่างของคนบนอินเทอร์เน็ต ที่มองว่าเสี่ยวไอซ์เป็นเหมือนเพื่อนหรือพี่ที่จะมาดูแลกัน ในขณะที่มองเทย์ว่าเป็นวัยรุ่นโง่ๆ ที่ปั่นหัวได้ เป็นเพราะวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน หรือเป็นเพราะระดับเสรีภาพในการแสดงออกบนอินเทอร์เน็ตกันแน่
แม้เว็บไซต์บางเว็บจะใช้โอกาสนี้ในการชี้ว่าเสรีภาพที่มากเกินไปเป็นสิ่งที่ทำให้เทย์เปลี่ยนจากเด็กสาวซื่อใสไปเป็นนีโอนาซีได้ แต่ซู่ชิงคิดว่าอย่างน้อยๆ ข้อมูลที่คนบนอินเทอร์เน็ตป้อนเข้าไปให้เทย์และถูกสะท้อนออกมานั้นแม้บางอย่างมันจะงี่เง่าและน่าขันแค่ไหนแต่มันก็เป็นการสะท้อนข้อมูลทุกด้านให้ออกมาสู่ที่สว่าง ทำให้เราได้รู้ว่ามีข้อมูลชุดไหนบ้างอยู่บนอินเทอร์เน็ต และเช่นเดียวกับทุกอย่างๆ ในโลกนี้เราก็จะต้องใช้วิจารณญาณและการประมวลผลของตัวเราเองมาร่วมขบคิดด้วย
ในหลายกรณีก็น่าจะดีกว่าปัญญาประดิษฐ์ใสซื่อที่ไม่อาจสะท้อนอะไรให้เกิดกลายมาเป็นปัญญาใหม่ๆ ให้กับเรา นอกเหนือไปจากสิ่งที่เรารู้อยู่แล้วนะคะ